หลักการสำคัญ
1. การมีส่วนร่วมของชุมชน ชุมชนเป็นเจ้าของ ชุมชนเป็นผู้รับประโยชน์
2. ชุมชนมีความสมัครใจในการพัฒนาตนเอง
3. เป็นกระบวนการเรียนรู้และการพัฒนาตนเอง
4. เน้นความยืดหยุ่น สอดคล้อง เหมาะสมกับชุมชน
5.ความร่วมมือและการยอมรับเป็นเครื่องมือเชื่อมประสานการทำงานของภาคีการพัฒนา
6 หลักการสร้างสังคมคุณภาพ เพิ่มคุณค่า
7. สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ มีจิตสาธารณะ มีจริยธรรม คุณธรรม
วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้ผู้นำชุมชน กลุ่ม/องค์กรชุมชน เครือข่ายองค์กรชุมชนและชุมชน ใช้เป็นเครื่องมือสร้างกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาตนเองไปสู่ความเข้มแข็ง
2.เพื่อให้ภาคีการพัฒนาใช้เป็นเครื่องมือเชื่อมประสานการทำงานการพัฒนาศักยภาพชุมชนโดยมีชุมชนเป็นศูนย์กลาง
ลักษณะมาตรฐาน
ลักษณะมาตรฐานงานชุมชน ทั้ง 4 ประเภท ประกอบด้วย “ด้าน” กับ”องค์ประกอบที่แสดงถึงคุณลักษณะที่ดีซึ่งสะท้อนภาวะผู้นำของผู้นำชุมชน และตัวชี้วัดความเข้มแข็งของกลุ่ม/องค์กรชุมชน เครือข่ายองค์กรชมชน และชุมชน ซึ่งประเภทมาตรฐานงานชุมชน ทั้ง 4 ประเภท มีดังนี้
ประเภทที่ 1 มาตรฐานผู้นำชุมชน ประกอบด้วยภาวะผู้นำ 3 ด้าน 15 องค์ประกอบ ได้แก่
1) ด้านการบริหารตนเอง มี 4 องค์ประกอบคือ
1.1 บุคลิกภาพดี
1.2 ความรู้ ความสามารถ
1.3 คุณธรรม ศีลธรรมและจริยธรรม
1.4 วินัยในตนเอง
2) ด้านการบริหารสังคม มี 4 องค์ประกอบคือ
2.1 มนุษย์สัมพันธ์
2.2 ความเป็นประชาธิปไตย
2.3 การประสานงานที่ดี
2.4 การเป็นที่ปรึกษาที่ดี
3) ด้านการบริหารงาน มี 7 องค์ประกอบคือ
3.1 การวางแผน
3.2 การแก้ไขปัญหา
3.3 การบริหารงบประมาณ การเงิน บัญชี
3.4 การพัฒนางานอย่างต่อเนื่อง
3.5 การควบคุมและประเมินผล
3.6 การสร้างและการพัฒนาทีม
3.7 ความรับผิดชอบต่องาน
ประเภทที่ 2 มาตรฐานกลุ่ม/องค์กรชุมชน ประกอบด้วยลักษณะความเข้มแข็ง 4 ด้าน 14 องค์ประกอบ ได้แก่
1) ด้านโครงสร้างและกระบวนการทำงาน กลุ่ม/องค์กรชุมชนที่ดำเนินงานได้อย่างมีมาตรฐานควรจะมีโครงสร้างและกระบวนการทำงานที่แสดงถึงการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบเพื่อเกื้อหนุนให้เกิดการมีส่วนร่วมของสมาชิกในการขับเคลื่อนการดำเนินงานของกลุ่ม/องค์กรชุมชนให้ไปสู่ผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้ง มี 4 องค์ประกอบคือ
1.1 คณะกรรมการ
1.2 ระเบียบข้อตกลง
1.3 สมาชิก
1.4 สถานที่ทำงานกลุ่ม
1.5 กระบวนการทำงาน
2) ด้านการบริหารเงินทุนและทรัพยากร กลุ่ม/องค์กรชุมชนที่ดำเนินการได้อย่างมีมาตรฐานควรจะมีการบริหารเงินทุนและทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่า และโปร่งใส สำหรับด้านนี้แบ่งเป็น 3 องค์ประกอบคือ
2.1 การจัดหาเงินทุนและทรัพยากร
2.2 การจัดสรรและใช้ประโยชน์จากเงินทุนและทรัพยากร
2.3 การควบคุมการใช้ประโยชน์จากเงินทุนและทรัพยากร
3) ด้านการพัฒนาขีดความสามารถขององค์กร กลุ่ม/องค์กรชุมชนที่ดำเนินการได้อย่างมีมาตรฐานควรจะมีการเสริมสร้างการเรียนรู้เพื่อพัฒนากลุ่ม/องค์กรชุมชนอย่างต่อเนื่องและเชื่อมโยงกับกลุ่ม/องค์กรอื่นๆ ซึ่งด้านนี้แบ่งเป็น 3 องค์ประกอบคือ
3.1 การพัฒนาการเรียนรู้
3.2 การพัฒนาทุนทางสังคม
3.3 การเชื่อมโยงกับกลุ่ม/องค์กร
4) ด้านผลประโยชน์ต่อสมาชิกและชุมชน กลุ่ม/องค์กรชุมชนทีดำเนินการได้อย่างมีมาตรฐานควรจะมีการแบ่งปันผลประโยชน์ต่อสมาชิกและชุมชนอย่างทั่งถึงเป็นธรรม และตอบสนองความต้องการตามระเบียบที่เห็นพ้องต้องกันของสมาชิก ซึ่งด้านนี้แบ่งเป็น ๓ องค์ประกอบคือ
4.1 การดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหาของสมาชิก
4.2 การแบ่งปันผลประโยชน์ต่อสมาชิก
4.3 การจัดสวัสดิการต่อสมาชิกและชุมชน
ประเภทที่ 3 มาตรฐานเครือข่ายองค์กรชุมชน ประกอบด้วยลักษณะความเข้มแข็ง 4 ด้าน 17 องค์ประกอบ ได้แก่
1) ด้านโครงสร้างและกระบวนการทำงาน คุณลักษณะสำคัญของโครงสร้างและกระบวนการทำงานคือ มีการแบ่งบทบาทหน้าที่ที่ชัดเจน มีกระบวนการทำงานที่เชื่อมโยงไปสู่ภารกิจ และเป้าประสงค์ขององค์กรสมาชิก เนื่องจากคุณลักษณะข้างต้น จะช่วยขับเคลื่อนเครือข่ายไปสู่ผลสำเร็จร่วมกันได้ในที่สุด ซึ่งด้านนี้แบ่งเป็น 3 องค์ประกอบ คือ
1.1 องค์กรสมาชิก
1.2 คณะกรรมการ/แกนนำ
1.3 การบริหารจัดการ
2) ด้านการบริหารงบประมาณและทรัพยากร มีการบริหารงบประมาณและทรัพยากร ทั้งที่เป็นความรู้และบุคลากร โดยยึด ๔ หลักการสำคัญ กล่าวคือ โปร่งใส ตรวจสอบได้ มีวินัยในการหาและจัดสรรรายจ่ายให้สอดคล้องกับรายได้ มีประสิทธิภาพและตอบสนองต่อความต้องการขององค์กรสมาชิกสำหรับด้านนี้แบ่งเป็น 5 องค์ประกอบคือ
2.1 โปร่งใส ตรวจสอบได้
2.2 ความมีวินัยทางการบริหารเงินทุน
2.3 ความมีประสิทธิภาพในการบริหารเงินทุน
2.4 การบริหารภูมิปัญญา/ฐานความรู้
2.5 การบริหารทรัพยากรบุคคล
3) ด้านการพัฒนาขีดความสามารถของเครือข่าย มีกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อสั่งสมองค์ความรู้ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง สามารถนำบทเรียนที่ได้มาใช้พัฒนาขีดความสามารถภายในองค์กรสมาชิกหรือเชื่อมโยงขยายผลไปสู่เครือข่ายอื่น อีกทั้งสามารถใช้บทเรียนความรู้ที่ได้มีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายสาธารณะขององค์กรภาครัฐ ซึ่งด้านนี้แบ่งเป็น 4 องค์ประกอบคือ
3.1 การพัฒนาการเรียนรู้
3.2 การนำความรู้สู่นโยบายสาธารณะ
3.3 การขยายเครือข่าย
3.4 การเชื่อมโยงการทำงานเครือข่าย
4) ด้านผลประโยชน์ต่อสมาชิก/ชุมชน มีการจัดสรรผลประโยชน์ตามวัตถุประสงค์การจัดตั้งเครือข่ายให้แก่องค์กรสมาชิกอย่างทั่วถึง เป็นธรรม การรวมตัวเป็นเครือข่ายส่งผลให้เกิดการผนึกพลังในการพิทักษ์ต่อรองผลประโยชน์ขององค์กรสมาชิกอย่างสร้างสรรค์จนนำไปสู่บรรยากาศการทำงานที่แบ่งปันแก่ส่วนรวมเกื้อกูลและไว้วางใจกันระหว่างองค์กรสมาชิก โดยด้านนี้แบ่งเป็น 5 องค์ประกอบคือ
4.1 การจัดสรรผลประโยชน์
4.2 การแลกเปลี่ยนปัจจัยการผลิตระหว่างกัน
4.3 การมีพลังต่อรอง
4.4 การเกื้อหนุนประโยชน์ต่อชุมชน
4.5 การจัดสวัสดิการต่อสมาชิก
ประเภทที่ 4 มาตรฐานชุมชน ประกอบด้วย ลักษณะความเข้มแข็ง 7 ด้าน 21 องค์ประกอบ ได้แก่
1) ด้านเศรษฐกิจชุมชน มี 3 องค์ประกอบ คือ
1.1 ครัวเรือนสามารถพึ่งตนเองได้
1.2 การส่งเสริมอาชีพที่ตอบสนองความต้องการของชุมชน
1.3 การส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนตามความเหมาะสมของชุมชน
2) ด้านการจัดการทรัพยากรในชุมชน มี 3 องค์ประกอบ คือ
2.1 การบริหารทรัพยากรธรรมชาติอย่างเหมาะสม
2.2 การเสริมสร้างสภาพแวดล้อมชุมชนที่ดี
2.3 ระบบโครงสร้างพื้นฐานเพียงพอต่อความต้องการ
3) ด้านสุขภาพอนามัย มี 4 องค์ประกอบ คือ
3.1 ระบบโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสุขภาพจากการมีส่วนร่วมของชุมชน
3.2 การจัดการเพื่อสร้างเสริมสุขภาพ
3.3 การป้องกันโรคประจำถิ่น (โรคติดต่อและไม่ติดต่อ)
3.4 ความสามารถในการดูแลและจัดการด้านสุขภาพได้ด้วยตนเอง
4) ด้านศาสนา วัฒนธรรมและประเพณี มี 3 องค์ประกอบ คือ
4.1 การนับถือศาสนาเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ
4.2 การมีวิถีชีวิตแบ่งปันเอื้ออาทร
4.3 การอนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรมประเพณีของชุมชน
5) ด้านการพัฒนาคนในชุมชน มี 2 องค์ประกอบ คือ
5.1 การจัดการความรู้ของชุมชน
5.2 การพัฒนาผู้นำ/สมาชิกในชุมชน
6) ด้านการบริหารจัดการชุมชน มี 4 องค์ประกอบ คือ
6.1 การจัดการระบบฐานข้อมูลในชุมชน
6.2 การจัดทำแผนชุมชน
6.3 การจัดสวัสดิการภายในชุมชน
6.4 การเสริมสร้างการเมืองการปกครองตามระบบประชาธิปไตย
7) ด้านความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน มี 2 องค์ประกอบ คือ
7.1 การป้องกันรักษาความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
7.2 การป้องกันภัยธรรมชาติโดยชุมชน
กลไกการบริหารจัดการระบบ มชช.
จังหวัดสามารถกำหนดรูปแบบการบริหารจัดการระบบ มชช.ที่เรียกว่า “คณะกรรมการระบบมาตรฐานงานชุมชนจังหวัด” และ “คณะกรรมการระบบมาตรฐานงานชุมชนอำเภอ”ได้ตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ เช่น
คณะกรรมการฯ มาจากการสรรหา หรือการคัดเลือกของสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด ในฐานะเจ้าภาพในการดำเนินงาน ซึ่งมีทั้งผู้แทนภาครัฐและภาคประชาชน ภาคเอกชน
คณะกรรมการฯ เป็นกลไกภาคประชาชน หรือเครือข่ายองค์กรภาคประชาชนที่มีการดำเนินการพัฒนาตามประเด็นงานที่สนใจหรือภารกิจของเครือข่ายที่ต้องการพัฒนาสมาชิกโดยใช้ระบบ มชช. เช่น ศอช.จ. กพสจ. สมาคมอช.ผู้นำอช. ฯลฯ
คณะกรรมการฯ ที่มาจากการผสมผสานรูปแบบที่ 1 และ 2 หรือรูปแบบอื่นๆ ตามความเหมาะสมของพื้นที่
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมีผู้นำผ่านการเรียนรู้ ระบบ มชช. มากกว่า 10,000 คน ทั่วประเทศ ที่สามารถเป็นพี่เลี้ยง ที่ปรึกษา หรือเข้ามาเป็นกลไกการบริหารจัดการระบบ มชช.
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขั้นตอนการดำเนินงาน มชช.
- ขั้นการเตรียมการ ประกอบด้วย การเตรียมข้อมูล/เนื้อหา เตรียมตนเอง เตรียมทีมงาน เตรียมงาน
- ขั้นดำเนินการ ประกอบด้วย การสมัคร การสร้างความเข้าใจ การวิเคราะห์ตนเอง การสร้างการมีส่วนร่วม การสร้างตัวชี้วัด การจัดทำแผนพัฒนาตนเอง และการดำเนินการตามแผน
- ขั้นประเมินผล ประกอบด้วย การประเมินผลด้วยตนเอง การประเมินผลโดยชุมชน/สมาชิก/คนรอบข้าง และการประเมินผลโดยคณะกรรมการ
- ขั้นยกย่อง เชิดชูเกียรติ เช่น มอบเข็ม ใบประกาศเกียรติคุณ
- ขั้นขยายผล เช่น จัดตั้งเครือข่ายการเรียนรู้ ศูนย์เรียนรู้ มชช.ต้นแบบ